วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ระวังหนอนอินเตอร์เน็ตตัวใหม่

W32.Netsky.B@mm สามารถแพร่กระจายผ่านทางอี-เมล์ด้วยคอมโพเนนต์สำหรับการส่งอี-เมล์ด้วยตัวเอง ผ่านโพรโตคอลที่ใช้ในการส่งอี-เมล์ชื่อ Simple Mail Transfer Protocol (SMTP) โดยอาศัยเครื่องที่ถูกหนอนชนิดนี้คุกคามเป็นพาหะสำหรับการส่งอี-เมล์ที่แนบไฟล์ของหนอนชนิดนี้ออกมาในปริมาณมาก และอี-เมล์แอดเดรสที่ส่งไปนั้นหนอนจะสแกนหาในไฟล์ต่างๆ นอกจากนี้หนอนชนิดนี้ยังมีความสามารถในการแพร่กระจายตัวผ่านทางการแชร์ไฟล์ โดยหนอนจะทำการค้นหาตั้งแต่ไดรฟ์C: จนกระทั่งไดรฟ์Z: ถ้าพบโฟลเดอร์ใดก็ตามที่มีชื่อประกอบด้วยคำว่า "Share" หรือ "Sharing" หนอนก็จะคัดลอกตัวหนอนเองไปยังโฟลเดอร์นั้นๆ
หนอนชนิดนี้สามารถแพร่กระจายผ่านทางอี-เมล์ ซึ่งหนอนชนิดนี้มี SMTP ที่ใช้ส่ง
อี-เมล์ได้ด้วยตัวเอง โดยอี-เมล์ที่หนอนทำการส่งนั้นจะปลอมแปลงชื่อผู้ส่งเพื่อหลอกล่อให้ผู้รับรันไฟล์ที่แนบมาได้ นอกจากนี้หนอนชนิดนี้ยังมีความสามารถในการแพร่กระจายผ่านการแชร์ไฟล์ โดยจะแพร่กระจายผ่านโฟลเดอร์ที่มีชื่อประกอบด้วยคำว่า "Share" หรือ "Sharing" ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโฟลเดอร์ที่ใช้ในการแชร์ไฟล์ของโปรแกรมประเภท P2P (เช่น C:\Program Files\My Shared Folder\Kazaa)

ที่มา : http://www.dld.go.th/ict/article/virus/v18.html


เปิดโลก IT Certificate วัดความสามารถบุคลากรไอที



ประกาศนียบัตรในผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้น เป็นเสมือนสิ่งที่รับรองบุคคลว่า บุคคลที่ได้รับประกาศนียบัตรนั้นมีความรู้ความชำนาญในเรื่องของผลิตภัณฑ์นั้นสามารถที่จะทำงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์นั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลายบริษัทและองค์กรต่างมีการออกประกาศนียบัตรเพื่อรับรองถึงคุณภาพของบุคลากรที่ได้รับประกาศนียบัตรของตน ซึ่งต้องมีการทดสอบในเรื่องความรู้และความชำนาญในผลิตภัณฑ์ของตน บทความนี้เป็นการบอกเล่าถึงประกาศนียบัตรประเภทต่างๆ ของแต่ละบริษัท เช่น ไมโครซอฟท์ ซิสโก้ ซัน และโนเวล นอกจากนี้ในตอนท้ายมีขั้นตอนในการเตรียมพร้อมเพื่อให้สามารถประสบความสำเร็จในการสอบใบประกาศนียบัตร
หากกล่าวถึงเรื่องของประกาศนียบัตร (Certificate) หรือใบรับรองความสามารถนั้น นับได้ว่าเป็นสิ่งที่รับรองถึงความรู้ความสามารถของบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศหรือไอทีจนถึงขั้นที่ว่าเป็นมาตรฐานเลยทีเดียว ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ด้านคอมพิวเตอร์ของบริษัทผู้ผลิต และองค์กรบางองค์กรได้ออกประกาศนียบัตรเพื่อรับรองถึงคุณภาพของบุคลากรที่ได้รับประกาศนียบัตรของตน
เทคโนโลยีในด้านต่างๆ มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยเฉพาะในส่วนของเทคโนโลยีด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์นั้นมีการพัฒนาปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา บริษัทและองค์กรต่างๆ ที่มีการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ภายในองค์กรนั้น ย่อมต้องมีบุคลากรที่มีความรู้ในด้านของเทคโนโลยีดังกล่าว เมื่อความรู้และเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลง บุคลากรเหล่านั้ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ จึงเป็นธรรมดาที่ต้องพัฒนายกระดับความรู้ความสามารถของตนเองให้สามารถทำงานกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงให้ได้ การพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากรทำได้หลายทาง ยกตัวอย่าง เช่น การศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง การสอบถามจากบุคคลอื่นที่มีความรู้และความชำนาญมากกว่า และการเข้ารับการอบรม เป็นต้น การสอบเพื่อให้ได้ใบประกาศนียบัตรเป็นหนึ่งในแนวทางการยกระดับความรู้ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบุคลากร รวมถึงองค์กรตลอดจนถึงระดับประเทศด้วย


วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

กฎหมาายลิขสิทธิ์ของไทย

กฏหมายลิขสิทธิ์ของไทย                    
ลิขสิทธิ์คืออะไร
ลิขสิทธิ์ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาอย่างหนึ่ง ที่กฎหมายให้ความคุ้มครอง โดยให้เจ้าของลิขสิทธิ์ถือสิทธิแต่เพียงผู้เดียว ที่จะกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับงานสร้างสรรค์ที่ตนได้กระทำขึ้นงานอันมีลิขสิทธิ์ งานสร้างสรรค์ที่จะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ต้องเป็นงานในสาขา วรรณกรรม นาฎกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง งานแพร่เสียงแพร่ภาพ รวมถึงงานอื่น ๆ ในแผนกวรรณคดี วิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ งานเหล่านี้ถือเป็นผลงาน ที่เกิดจากการใช้สติปัญญา ความรู้ความสามารถ และความวิริยะอุตสาหะ ในการสร้างสรรค์งานให้เกิดขึ้นซึ่งถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจการได้มาซึ่งลิขสิทธิ์สิทธิในลิขสิทธิ์เกิดขึ้นทันที นับแต่ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างสรรค์ผลงานออกมาโดยไม่ต้องจดทะเบียน หรือผ่านพิธีการใด ๆ
การคุ้มครองลิขสิทธิ์
ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียว ในการใช้ประโยชน์จากผลงานสร้างสรรค์ของตน ในการทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน รวมทั้งสิทธิในการให้เช่า โดยทั่วไปอายุการคุ้มครองสิทธิจะมีผลเกิดขึ้นทันทีที่มีการสร้างสรรค์ผลงาน โดยความคุ้มครองนี้จะมีตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์ และคุ้มครองต่อไปอีก 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์เสียชีวิต

ประโยชน์ต่อผู้บริโภค
การคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิในผลงานลิขสิทธิ์ มีผลให้เกิดแรงจูงใจแก่ผู้สร้างสรรค์ ผลงานที่จะสร้างสรรค์ผลงานที่มีประโยชน์ มีคุณค่าทางวรรณกรรมและศิลปกรรมออกสู่ตลาด ส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับความรู้ ความบันเทิง และได้ใช้ผลงานที่มีคุณภาพ

พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
กฎหมายลิขสิทธิ์มีวัตถุประสงค์ให้ความคุ้มครองป้องกันผลประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจและทางศีลธรรม ซึ่งบุคคลพึงได้รับจากผลงานสร้างสรรค์อันเกิดจากความนึกคิดและสติปัญญาของตน นอกจากนี้ยังมุ่งที่จะสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงาน กล่าวคือ เมื่อผู้สร้างสรรค์ได้รับผลตอบแทนจากหยาดเหงื่อแรงกายและสติปัญญาของตน ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากการลงทุน ก็ย่อมจะเกิดกำลังใจที่จะคิดค้นสร้างสรรค์และเผยแพร่ผลงานให้แพร่หลายออกไปมากยิ่งขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี การกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาสติปัญญาของคนในชาติ เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ประเทศไทยได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 เพื่อใช้บังคับแทน พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2538 พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ ให้ความคุ้มครองต่อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยจัดเป็นผลงานทางวรรณกรรมประเภทหนึ่ง และงานที่ได้จัดทำขึ้นก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และเป็นงานที่ได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ จะได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
แม้ว่าประเทศไทยจะมีกฎหมายคุ้มครองลิขสิทธิ์มาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่ความเข้าใจของประชาชนโดยทั่วไปในเรื่องลิขสิทธิ์ยังไม่ชัดเจน ความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการคุ้มครองลิขสิทธิ์ และทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะนำไปสู่การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ที่ยั่งยืนกว่าการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหต
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ได้ให้ความหมายของคำว่า "ลิขสิทธิ์" ว่า หมายถึง สิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะทำการใดๆตามพระราชบัญญัตินี้" เกี่ยวกับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ทำขึ้น นั่นก็หมายความ ว่า เจ้าของลิขสิทธิ์เพียงผู้เดียวเท่านั้นที่มีสิทธิจะทำอย่างไรก็ได้ กับงานอันมีลิขสิทธิ์ของตนเอง

การละเมิดลิขสิทธิ์
          - การละเมิดลิขสิทธิ์โดยตรง : คือ การทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่โปรแกรมคอมพิวเตอร์แก่สาธารณชน รวมทั้งการนำต้นฉบับหรือสำเนางานดังกล่าวออกให้เช่า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์
          - การละเมิดลิขสิทธิ์โดยอ้อม : คือ การกระทำทางการค้า หรือการกระทำที่มีส่วนสนับสนุนให้เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าวข้างต้นโดยผู้กระทำรู้อยู่แล้ว ว่างานใดได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น แต่ก็ยังกระทำเพื่อหากำไรจากงานนั้น ได้แก่ การขาย มีไว้เพื่อขาย ให้เช่า เสนอให้เช่า ให้เช่าซื้อ เสนอให้เช่าซื้อ เผยแพร่ต่อสาธารณชน แจกจ่ายในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าของลิขสิทธิ์และนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักร

บทกำหนดโทษ
          1. การละเมิดลิขสิทธิ์โดยตรง : มีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หากเป็นการกระทำเพื่อการค้า มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          2. การละเมิดลิขสิทธิ์โดยอ้อม : มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาท หากเป็นการกระทำเพื่อการค้า มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 บาท ถึง 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                    - ผู้ใดกระทำความผิดต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ฉบับนี้ เมื่อพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนดห้าปีกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัตินี้อีก จะต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
                    - กรณีที่นิติบุคคลกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ถือว่ากรรมการหรือผู้จัดการทุกคนของนิติบุคคลนั้นเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดกับนิติบุคคลนั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่ามิได้รู้เห็นหรือยินยอมด้วย

                    - ค่า ปรับที่ได้มีการชำระตามคำพิพากษานั้น ครึ่งหนึ่งจะตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์อย่าวไรก็ดีการได้รับค่าปรับดังกล่าว ไม่กระทบต่อสิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์ ที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งสำหรับส่วนที่เกินจำนวนเงินค่าปรับที่ เจ้าของลิขสิทธิ์ได้รับไว้แล้วนั้น

ที่มา : http://www.dol.go.th/it/index.php?option=com_content&task=view&id=210

Samsung Galaxy S4



เผยแพร่ที่ 06:00 เมื่อ 21 พฤษภาคม 2013
ระหว่าง "การติดตามตา" อากาศดูท่าทางอากาศโหมดง่าย, IR Blaster และคุณสมบัติของกล้องไม่มีที่สิ้นสุด, Galaxy S4 เป็นความฝันของผู้อำนวยการการตลาดของจริงขึ้นมา มาร์ทโฟนนี้ไม่ได้ทั้งหมดและทุกคุณสมบัติเป็นปลายทางก็จะมีดาวของแคมเปญการตลาดบางอย่างกล้าหาญในบางจุด และแม้กระทั่งเท่าที่ประสบการณ์ของผู้ใช้มีความกังวลเป็นจมโดยคุณสมบัติที่ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในโลกอย่างใดอย่างหนึ่ง จริงๆขุดและสำรวจคุณสมบัติทั้งหมดที่จะนำคุณวันหากไม่สัปดาห์จะเป็นที่จะผ่านแถวและแถวของปพลิเคชันที่ติดตั้งในลิ้นชักแต่ช้างห้องพักในคำถามที่ยังคง: เป็น Samsung Galaxy S4 โทรศัพท์ที่คุณควรซื้อแทนHTCหนึ่งหรือ iPhone 5?
ฮาร์ดแวร์: สมองร่างกาย แต่ไม่มีจิตวิญญาณ
ด้วย Galaxy S4, ซัมซุงจะย้ายสายของมาร์ทโฟนเรือธงมาร์ทโฟนในการปรับปรุงเป็นประจำทุกปีแนวโน้มการตั้งค่าโดย Apple และ iPhone เพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นั่นหมายความว่าการปรับปรุงฮาร์ดแวร์ที่มีความสำคัญอาจจะไม่เข้ามาจนกระทั่งปี 2014 ในขณะที่ Galaxy S4 เป็นซอฟต์แวร์ที่มีใจเดียวกันการปรับปรุงแบ็กเอนด์ (เหมือน iPhone 4S คือ) มากเพียงไม่กี่ Galaxy SIIIเจ้าของกำลังจะออกมีความต้องการที่จะปรับปรุง หลังจากที่ทุกสองโทรศัพท์มองเหมือนกันเกือบ






แต่น่าเสียดายที่ในแง่ของวิธีการสิ่งนี้จะใส่กันที่ไม่ได้หมายความว่าเป็นคำชมเชย
ด้วยความลื่นของลายนิ้วมือดึงดูดปลอกพลาสติกและสร้างบอบบางโดยสิ้นเชิง, Galaxy S4 รู้สึกผิดหวังราคาถูก เมื่อคุณแตะที่ด้านหลังของโทรศัพท์มันสั่นสะเทือนในมือของคุณเป็นถ้าเป็นกลวง มันเป็นเรื่องของสมองและร่างกายกับจิตวิญญาณไม่มี ในขณะที่มันยอดเยี่ยมวิธีการที่บางและเบาพวกเขาตัด S4 Galaxy ลง (แม้ว่ามันจะยังไม่เป็นบางหรือแสงเป็น iPhone 5) จะมาพร้อมค่าใช้จ่ายของความรู้สึกของโทรศัพท์ นี้ได้เสมอหนึ่งของปัญหาของซัมซุงและ Galaxy S4 ทำให้ความพยายามที่จะรู้สึกมากขึ้นเช่นมาร์ทโฟนที่แข็งแกร่งพรีเมี่ยมไม่ เช่นโทรศัพท์มือถือHTC One, iPhone 5 หรือแม้กระทั่ง Lumia 920 เป็นเพียงในระดับที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในแง่ของการออกแบบและสร้าง

ที่ถูกกล่าวว่า S4 Galaxy แน่นอนที่สุดไม่ได้เป็นกลวง เครื่องนี้มาพร้อมกับนักฆ่าแบบ quad-core Qualcomm Snapdragon 600 และ 2GB RAM ที่การแข่งขันสูสีกับคู่แข่งเรือธงที่เกือบจะเปิดทุก ในคำอื่น ๆ ที่มีเกือบไม่มีอะไรที่คุณสามารถทำได้ที่จะชะลอตัวลงเครื่องนี้คือ ปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วเปิดแป้นพิมพ์มีการตอบสนองและวิดีโอเล่นไม่มีที่ติ ฉันพยายามของฉันที่ดีที่สุดเพื่อให้ระบบแยกการพูดติดอ่างแม้กระทั่งหน้าจอระหว่างวิดีโอ HD YouTube และเลื่อนผ่านทางทวิตเตอร์ของฉันในเวลาเดียวกันรู้สึกกระปรี้กระเปร่าที่น่าประทับใจอย่างเท่าเทียมกันคือหน้าจอโทรศัพท์นี้ เมื่อพยุหะของ renewers สัญญาให้วิธีการของพวกเขาผ่าน Verizon หรือ AT & T เก็บ Galaxy S4 ของ 5 "1080p แสดงคนเดียวที่จะจับผู้คนให้ความสนใจAMOLEDหน้าจอไม่ได้สำหรับทุกคนและของซัมซุง "Super AMOLED "จอแสดงผลที่มีบางส่วนของหน้าจอมีคุณภาพเดียวกัน นิสัยใจคอเช่นความคมชัดสูงผิดธรรมชาติและความถูกต้องสีขี้ขลาด. นอกจากนี้ผมพบว่าหน้าจอมีช่วงเวลาที่ยากที่ส่องแสงผ่านแสงแดดแม้จะมีความจริงที่ว่าซัมซุงอ้างว่าพวกเขาซูเปอร์AMOLEDหน้าจอสะท้อนให้เห็นถึงห้าครั้งแสงแดดน้อยกว่ารุ่นก่อน. แต่ระหว่าง HD ความละเอียดและ bezels บางซุปเปอร์แสดง Galaxy S4 ของแพ็คหมัดที่แน่ใจว่าจะทำให้ความประทับใจครั้งแรกที่ดีกับผู้ซื้อ

ซอฟแวร์: จมโดยคุณสมบัติและกราฟิกวิเศษ

ของทุกOEMกิน Android ออกมีของซัมซุง "TouchWiz" GUIได้รับเสมอหนึ่งในล่วงล้ำมากที่สุด ทุกอย่างจากการปลดล็อคหน้าจอระยิบระยับไป homescreens 3D วิเศษยืนยันว่า TouchWiz จะไม่พร้อมที่จะให้ย้ายที่สำคัญในการกำหนดทิศทางของหุ้น Android เร็ว ๆ นี้ การออกแบบที่เรียบง่ายไม่เคยมีชุดที่แข็งแกร่งของซัมซุงและ UI รกของ Galaxy S4 ก็เห็นได้ชัดจากขวาไป get-เมื่อคุณเริ่มโทรศัพท์ขึ้นเป็นครั้งแรกที่คุณจะได้รับการต้อนรับจากโฮสต์ของหน้าจอช่วยเหลือและแบบฝึกหัดซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นถ้าคุณหวังที่จะได้รับผ่านโฮสต์ของซัมซุงและแอพพลิเคผู้ให้บริการ เช่นเดียวกับโทรศัพท์ Android หลายการต่อสู้สำหรับเนื้อหาโฮสติ้งจะปรากฏขึ้นภายในโทรศัพท์ตัวเอง ซัมซุง, Google และผู้ให้บริการของคุณทุกคนต้องการให้คุณซื้อหนังเรื่องต่อไปของคุณหรือเพลงออกจากร้าน App ของตัวเองและทุกคนต้องการมี App บนหน้าจอที่บ้านของคุณ เปิดลิ้นชักเมื่อแบรนด์ใหม่ Galaxy S4 เป็นเหมือนการเปิดลิ้นชักในโต๊ะทำงานของคุณที่คุณเก็บทุกสิ่งที่สุ่มที่ไม่ได้อยู่ที่ใดก็ได้ มันเป็นระเบียบทั้งหมด ดังนั้นจะใช้คำแนะนำของฉันที่นี่: ถอนการติดตั้งสิ่งที่คุณสามารถและย้ายทั้งหมดปพลิเคชัน Google ไปยังหน้าจอที่บ้านของคุณ อย่างมีเหตุผลที่จะมีส่วนร่วมในระบบนิเวศของซัมซุงหรือทำงานผ่าน app ใด ๆ ที่ Google มีรุ่นไม่มีวิดเจ็ตหน้าจอหลักใน TouchWiz เป็นที่น่ารังเกียจในทำนองเดียวกัน หลายคนของเครื่องมือของตัวเองของซัมซุงเช่นนาฬิกา, ลัดสภาพอากาศปฏิทินและ App ลักษณะเหมือนพวกเขาเป็นภาพหน้าจอของภาพ แปลกพอยกเครื่องกราฟิกของซัมซุงที่ครอบคลุมของ Android ไม่ครอบคลุมเครื่องมือที่เพราะมากของพวกเขาโดดเด่นออกมาเช่นนิ้วหัวแม่มือเจ็บ ไม่ว่าฉันพยายามฉันไม่สามารถหาการรวมกันของการวางซ้อนและเครื่องมือเหล่านี้ร่วมกันเพื่อให้พวกเขาได้ดูกันโดยสิ้นเชิงออกจากสถานที่ ซัมซุงอาจจะมีเพียง บริษัท เดียวเท่านั้นที่ไม่มีการลด overdoes skeuomorphism มากกว่าแอปเปิ้ลความสับสนนอกเหนือไปจากลิ้นชัก app และหน้าจอบ้าน แต่ แม้การทำงานของโทรศัพท์เป็นบิตบดบังด้วยความปรารถนาของซัมซุงที่จะผลักดัน Google ปิดโทรศัพท์ของพวกเขา ในขณะที่ Android 4.1 Google ทำตอนนี้เสมอเพียงหนึ่งรูดจากด้านล่างของหน้าจอซัมซุงที่ทำให้การรับรู้เสียง / ผู้ช่วยซอฟแวร์ด้านหน้าของตัวเองและศูนย์แทน ดับเบิลคลิกที่ปุ่มบ้านทางกายภาพจะนำขึ้นเสียง S, ขณะที่ Google ขณะนี้สามารถเข้าถึงได้โดยกดที่ยาวนานของปุ่มเมนูนุ่ม ที่จะใช้? แม้เสียง S เป็นอย่างมากดีกว่าการทำซ้ำก่อนหน้านี้ก็ยังคงเป็นความโชคร้ายที่จะเห็นตอนนี้ Google ผลักออกจากปอตไลท์มี standouts น้อยจากคลังแสงของ Samsung App แม้ว่าสุขภาพที่สะดุดตาที่สุด S, WatchOn ทีวี App และ App กล้อง สุขภาพคือสุขภาพที่ได้รับการออกแบบอย่างดีและ App การออกกำลังกายที่มีจำนวนมากที่มีศักยภาพ (แม้จะเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงที่จำเป็นต้องเพิ่มเติมบางอย่าง) ขณะที่ WatchOn ทีวี App จะเปิดออกจะเป็นวิธีที่สะดวกมากที่จะควบคุมสิ่งที่ง่ายเช่นปริมาณและช่องทางบนโทรทัศน์ของคุณ และแล้วเราก็เป็นกล้องล้านพิกเซล 13 ที่จะนำภาพถ่ายที่สวยงามและรวมถึงจำนวนของคุณสมบัติที่แปลกประหลาดที่จะสนุกกับการเล่นรอบกับทั้งหมด โยนในที่ดีโหมดการแบ่งหน้าจอมัลติทาสกิ้งและคุณได้หยิบคุณสมบัติที่เพิ่มฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์เล็ก ๆ แต่รวมถึงมาร์ทโฟน เหล่านี้เป็นคุณสมบัติที่แสดงอุทธรณ์กว้างและความทะเยอทะยานของ Galaxy S4บนมืออื่น ๆ ที่เห็น Galaxy S4 เป็น "โทรศัพท์สำหรับฝูง" ก็ยังคงเป็นความคิดที่แปลกประหลาดกับผม มันไม่ตรงไปตรงมาในทางที่จริงใด ๆ มันไม่ง่ายที่จะเพียงแค่รับและใช้และฉันไม่เคยอยากจะแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่ได้อยู่สะดวกสบายมากกับมาร์ทโฟน แต่ถึงแม้จะยังคงไม่ต้องแปลกใจเมื่อซัมซุงขายจำนวนทำลายสถิติของอุปกรณ์เหล่านี้ในปีนี้ หลังจากที่ทุกคนมีน้อยมากที่โทรศัพท์นี้ไม่สามารถทำได้ ฉันซ้ายยังคงสงสัยที่ว่า Galaxy S4 จะทำสำหรับนี่คือดีที่สุดที่ฉันสามารถขึ้นมา: ถ้าคุณต้องการโทรศัพท์ Android ของแข็งกับแบตเตอรี่ที่ถอดออกได้, ที่เก็บขยายและจอแสดงผลที่น่าประทับใจหรือแม้กระทั่งถ้าคุณเพียงต้องการโทรศัพท์ที่คุณสามารถควบคุมได้โดยโบกมือ, Galaxy S4 ของคุณ สำหรับคุณ แต่ถ้าคุณเป็นผู้ใช้ Android เฉลี่ยต้องการอัพเกรด, ฉันจะใช้เวลาดูอย่างที่HTCหนึ่งหรือแม้กระทั่ง 4 Nexus ก่อนที่จะเลือกนี้ขึ้น

wifi


WIFI คืออะไร

                      Wi-Fi ย่อมาจาก wireless fidelity) หมายถึงชุดผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่สามารถใช้ได้กับมาตรฐานเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบไร้สาย (WLAN) ซึ่งอยู่บนมาตรฐาน IEEE 802.11
 เดิมทีวายฟายออกแบบมาใช้สำหรับอุปกรณ์พกพาต่างๆ และใช้เครือข่าย LAN เท่านั้น แต่ปัจจุบันนิยมใช้วายฟายเพื่อต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยอุปกรณ์พกพาต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่าแอคเซสพอยต์ และบริเวณที่ระยะทำการของแอคเซสพอยต์ครอบคลุมเรียกว่า ฮอตสปอต
แต่เดิมคำว่า Wi-Fi เป็นชื่อที่ตั้งแทนตัวเลข IEEE 802.11 ซึ่งง่ายกว่าในการจดจำ โดยนำมาจากเครื่องขยายเสียง Hi-Fi อย่างไรก็ตามในปัจจุบันใช้เป็นคำย่อของ Wireless-Fidelity โดยมีแสดงในเว็บไซต์ของ Wi-Fi Alliance โดยใช้ชื่อวายฟายเป็นเครื่องหมายการค้า














เทคโนโลยี Wi-Fi ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงสำหรับรับส่งข้อมูลภายในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้งาน Wi-Fi ได้ต้องมีการติดตั้งแผงวงจรหรืออุปกรณ์รับส่ง Wi-Fi ซึ่งมีชื่อเรียกว่า Network Interface Card (NIC) แต่ปัจจุบันเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมักได้รับการติดตั้งชิปเซ็ต (Chipset) ที่ทำหน้าที่เป็นตัวรับส่งสัญญาณ Wi-Fi ไปในตัว ทำให้สะดวกต่อการนำไปใช้งานมากขึ้น การติดต่อสื่อสารด้วยเทคโนโลยี Wi-Fi ทำได้ทั้งแบบเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยไม่ต้องผ่านอุปกรณ์ตัวกลาง (Ad-hoc) และแบบที่ผ่านอุปกรณ์จุดเชื่อมต่อ (Access Point) ดังแสดงในรูปที่ 1 เนื่องจากการติดตั้งเครือข่าย Wi-Fi ทำได้ง่ายและไม่ต้องใช้ความรู้ในเชิงลึกทางด้านวิศวกรรมเครือข่าย แม้จะมีพื้นที่ครอบคลุมในระยะทางจำกัด แต่ก็ถือว่าเพียงพอที่ต่อการใช้งานในสำนักงานและบ้านพักอาศัยโดยทั่วไป จึงทำให้ผู้คนทั่วไปนิยมใช้งาน Wi-Fi กันมาก ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของตลาดผู้บริโภคอย่างรวดเร็วในปัจจุบันดังแสดงในรูปที่ 10 ซึ่งเป็นการแสดงจำนวนพื้นที่ที่มีการเปิดให้บริการ Wi-Fi ในสหรัฐอเมริกา ทั้งที่เป็นการให้บริการฟรี และที่มีการคิดค่าใช้จ่าย โดยทั่วไปมักเรียกพื้นที่เหล่านี้ว่า Hotspot
เทคโนโลยี Wi-Fi มีการพัฒนามาตามยุคสมัย ภายใต้การกำกับดูแลของกลุ่มพันธมิตร WECA (Wireless Ethernet Compatibility Alliance) เริ่มจากข้อกำหนดมาตรฐาน IEEE 802.11 ซึ่งกำหนดให้ใช้คลื่นวิทยุความถี่ 2.4 กิกะเฮิตรซ์ เป็นตัวกลางในการติดต่อสื่อสารกับจุดเชื่อมต่อ (AP หรือ Access Point) ข้อกำหนดดังกล่าวเป็นเพียงหลักการทางทฤษฎีเท่านั้น จนกระทั่งเมื่อมีการกำหนดให้มาตรฐาน IEEE 802.11a (อัตราเร็ว 54 เมกะบิตต่อวินาที) และ IEEE 802.11b (อัตราเร็ว 11 เมกะบิตต่อวินาที) ซึ่งใช้คลื่นวิทยุความถี่ 5 กิกะเฮิตรซ์ และ 2.4 กิกะเฮิตรซ์ตามลำดับ เป็นมาตรฐานสากลสำหรับใช้งานในปัจจุบัน และได้มีการพัฒนามาตรฐาน Wi-Fi ต่อเนื่องไปเป็น IEEE 802.11g (อัตราเร็ว 54 เมกะบิตต่อวินาที) ซึ่งในปัจจุบัน กล่าวได้ว่าการรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายแบบ Wi-Fi ทั้งสองความถี่สามารถทำได้ด้วยอัตราเร็วสูงสุดถึง 54 เมกะบิตต่อวินาทีเทียบเท่ากัน

 



อย่างไรก็ตาม อัตราเร็วที่แท้จริงในการรับส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์ AP ของผู้ใช้งานแต่ละคนอาจมีค่าไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในการใช้งาน และจำนวนผู้ใช้งานที่แบ่งกันรับส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์ AP ร่วมกัน นอกจากนั้นยังขึ้อยู่กับรูปแบบในการรับส่งข้อมูลของแต่ละคนอีกด้วย แม้การวางเครือข่ายสื่อสารไร้สายแบบ Wi-Fi จะมีพื้นที่ให้บริการจำกัดในระยะไม่มากนัก แต่การติดตั้งอุปกรณ์ AP เพื่อสร้างพื้นที่บริการให้ต่อเนื่องกัน ก็ทำให้เพิ่มขอบเขตในการให้บริการได้ ปัจจุบันมีการพัฒนารูปแบบการวางเครือข่ายอุปกรณ์ AP ชนิดพิเศษซึ่งมีการใช้งานร่วมกับสายอากาศขยายความแรงสัญญาณ ทำให้สามารถให้บริการ Wi-Fi ในพื้นที่กว้างขึ้น และ AP แต่ละชุดต่างก็สามารถรับส่งข้อมูลหากันได้ โดยต่างทำหน้าที่เป็นวงจรสื่อสัญญาณ (Transmission) ให้แก่กันและกันเรียกเทคโนโลยีดังกล่าวว่า Wireless-Mesh
อย่างไรก็ตาม อัตราเร็วที่แท้จริงในการรับส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์ AP ของผู้ใช้งานแต่ละคนอาจมีค่าไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในการใช้งาน และจำนวนผู้ใช้งานที่แบ่งกันรับส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์ AP ร่วมกัน นอกจากนั้นยังขึ้อยู่กับรูปแบบในการรับส่งข้อมูลของแต่ละคนอีกด้วย แม้การวางเครือข่ายสื่อสารไร้สายแบบ Wi-Fi จะมีพื้นที่ให้บริการจำกัดในระยะไม่มากนัก แต่การติดตั้งอุปกรณ์ AP เพื่อสร้างพื้นที่บริการให้ต่อเนื่องกัน ก็ทำให้เพิ่มขอบเขตในการให้บริการได้ ปัจจุบันมีการพัฒนารูปแบบการวางเครือข่ายอุปกรณ์ AP ชนิดพิเศษซึ่งมีการใช้งานร่วมกับสายอากาศขยายความแรงสัญญาณ ทำให้สามารถให้บริการ Wi-Fi ในพื้นที่กว้างขึ้น และ AP แต่ละชุดต่างก็สามารถรับส่งข้อมูลหากันได้ โดยต่างทำหน้าที่เป็นวงจรสื่อสัญญาณ (Transmission) ให้แก่กันและกันเรียกเทคโนโลยีดังกล่าวว่า Wireless-Mesh
ในทางปฏิบัติมักมีความเข้าใจกันว่าเทคโนโลยี Wi-Fi กับมาตรฐาน WLAN เป็นสิ่งเดียวกัน แต่แท้จริงแล้ว WLAN มีความหมายถึงการให้บริการสื่อสารข้อมูลในลักษณะแบ่งกันใช้แบนด์วิดท์ ระหว่างเครื่องลูกข่าย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ กับเครือข่ายสื่อสารไร้สาย โดยผ่านทางอุปกรณ์สถานีฐานหรือจุดเชื่อมต่อ ทั้งนี้ไม่มีการกำหนดมาตรฐานการเชื่อมต่อทางเทคนิคให้ตายตัว นอกเหนือจากเทคโนโลยี Wi-Fi แล้ว ยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เข้าข่ายให้บริการแบบ WLAN ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี WiMAX มาตรฐานการสื่อสารแบบ Bluetooth เทคโนโลยี Home RF หรือแม้กระทั่งเทคโนโลยี HiperLAN ซึ่ง 2 เทคโนโลยีหลังนั้นยังไม่ได้รับการยอมรับใช้งานอย่างแพร่หลายเท่าใดนักในปัจจุบัน