วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ไมโครซอฟท์กำลังพัฒนา Surface RT 2

         จากการเปิดเผยของ Jen-Hsun Huang ซีอีโอของ NVIDIA ที่ให้สัมภาษณ์กับ CNET ว่าในขณะนี้ไมโครซอฟท์กำลังเดินหน้าพัฒนาแท็บเล็ต Surface RT รุ่นที่ 2 ภายใต้การใช้ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดอย่าง Windows 8.1 มาพร้อมกับ Outlook for Surface RT ที่ถูกยกให้เป็น "Killer App" กันเลยทีเดียว ซึ่งหากมองข่าวคราวของแท็บเล็ต Surface รุ่นที่ 2 ที่ผ่านมากับข่าวล่าสุดนี้ก็น่าจะยืนยันได้ในระดับหนึ่งแล้วว่าไมโครซอฟท์มุ่งมั่นกับการพัฒนาแท็บเล็ตรุ่นใหม่ที่เดากันว่าอยู่ในขนาด 7-8 นิ้ว เพื่อรองรับการระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ แถมการใช้ชิปประมวลมีสิทธิ์เลือก Qualcomm Snapdragon 800 อีกเช่นกัน

          
         ถึงอย่างไรก็ตามจากประสบการณ์ของ Surface RT ในรุ่นแรกคงทำให้ไมโครซอฟท์ต้องหันมาปรับแผนการพัฒนาในรุ่นต่อไปให้มีความทันสมัยและตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และในส่วนของราคาก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไมโครซอฟท์อาจต้องคิดทบทวนอีกเช่นกัน

5 วิธีง่ายๆ ในการเพิ่มสัญญาณ Wi-Fi ในบ้านของคุณ

คงเซ็งในอารมณ์ไม่ใช่น้อยหากคุณพบว่า ไวไฟ (Wi-Fi) ในบ้านไม่เอื้ออำนวยให้การอ่านข่าวบนไอแพด (iPad) ยามเช้าไหลลื่นหมือนกาแฟที่กำลังดื่มอย่างคล่องคอในขณะนั้น บทความนี้ขอแนะนำวิธีง่ายๆ ในการที่จะปรับแต่งการใช้งานให้สัญญาณ Wi-Fi ในบ้านแรงขึ้น เพื่อการท่องเน็ตที่มีความสุขยิ่งขึ้น



      สำหรับเทคนิคที่นำมาเล่าสู่กันฟังในบทความนี้จะมีอยู่ 5 วิธีด้วยกัน โดยหากคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ได้ลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้ เชื่อว่า คุณจะสามารถเพิ่มระยะของการครอบคลุมสัญญาณไวไฟที่ไกลกว่าเดิม และประสบการณ์ในการท่องเน็ตไร้สายทีเร็วขึ้น ว่าแล้วลองมาดูกันครับว่า มีวิธีใดบ้าง?


1. อัพเดทเทคโนโลยีของอุปกรณ์ที่ใช้  หากเราท์เตอร์ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ ของคุณ ไม่ได้ล่าสมัยจนเกินไป (ไม่เกิน 3 ปี) ระบบทั้งหมดน่าจะสนับสนุนการเชื่อมต่อด้วยมาตรฐาน Wirelee-N ซึ่งหากตรวจสอบแล้วมันเข้ากันได้ แนะนำให้ตั้งค่าของเราท์เตอร์เป็น N-mode only เพื่อให้ได้ความเร็ว และรัศมีครอบคลุมการใช้งานสูงสุด การคั้งค่าเป็น b/g/n เพื่อให้สนับสนุนการเชื่อมต่ออุปกรณ์รุ่นเก่าทีทำงานช้ากว่า หากพีซีทีใช้มาพร้อมกับการ์ดเชื่อมต่อด้วย Wireless-G แนะนำให้มารุ่นใหม่ที่เป็น Wireless-N มาใส่แทน อย่างไรก็ตาม การซื้อเราท์เตอร์ใหม่ที่ไม่สนับสนุน Wireless-N มีโอกาสที่มันจะไม่สนับสนุนการเข้ารหัสระบบรักษาความปลอดภัยล่าสุดด้วย ก่อนตั้งค่าเป็น Wireless-N แนะนำให้คุณตรวจสอบเว็บไซต์ของผู้ผลิตด้วยว่า เฟิร์มแวร์ของเราท์เตอร์ที่คุณใช้อยู่ได้รับการอัพเกรดให้ใช้ได้แล้ว หรือยัง? ลองตรวจสอบ และทำตามดูนะครับ แล้วคุณจะพบกับประสบการณ์ใหม่ในการท่องเว็บไร้สายภายในบ้านของคุณ



2. หาฮวงจุ้ยที่เราท์เตอร์สามารถให้สัญญาณได้แรงที่สุด เราท์เตอร์ไม่ได้เป็นแก็ดเจ็ตที่สวยหรูดูดี ดังนั้นผู้ใช้ส่วนใหญ่ชอบวางมันหลบๆ ซ่อนๆ ไว้ แต่มันเป็นเรื่องที่ผิดพลาดมากๆ เพราะเราท์เตอร์เป็นอุปกรณ์"ขี้ร้อน"และมันต้องการที่ทีมีอากาศถ่ายเทสะดวก ดังนั้นควรวางมันในที่เปิดโล่ง อย่างเช่น ตรงกลางบ้าน พยายามให้อยู่ห่างจากผนัง และสิ่งกีดขวาง อย่างเช่น ตู้เอกสารที่ทำจากหล็ก ไม่ควรวางเราท์เตอร์ให้เสาสัญญาณชิดติดกำแพง หรือออกไปนอกอาคาร เพราะจทำให้สูญเสียสัญญาณครึ่งหนึ่งที่ส่งออกไป แถมยังอาจจะกลายเป็นการสร้างจุดบอดของสัญญาณภายในบ้านซะด้วยซ้ำ ฮวงจุ้ยที่ดีทีสุดสำหรับการติดตั้งเราท์เตอร์คือ ที่สูงดีกว่าที่ต่ำ โดยเฉพาะบ้านสองชั้น ถ้าจะให้ง่ายหน่อยแนะนำให้คุณวางเราท์เตอร์ไว้เหนือชั้น หรือบนตู้สูง และไม่อยู่ชิดติดสิ่งกีดขวางที่อาจบล็อคสัญญาณได้



เปลี่ยนช่องสัญญาณโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าไม่มี การปรับแต่งเลือกช่องสัญญาณทีมีการรบกวนน้อยสุดจะช่วยให้คุณได้สัญญาณไวไฟที่แรงขึ้น ลองศึกษาคู่มือ หรือค้นหาวิธีเปลี่ยนช่องสัญญาณ (Channel) ทีมีให้เลือก 1 - 11 แชนเนล จากเว็บไซต์ของผู้ผลิตเราท์เตอร์


4. ลดสัญญาณรบกวน นอกจากการอัพเดทเทคโนโลยีทีใช้ ค้นหาฮวงจุ้ยของเราท์เตอร์ที่เหมาะสม เปลี่ยนแชนเนลสัญญาณที่ไม่ไปชนกับใครแล้ว อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มความแรง และระยะในการส่งสัญญาณไวไฟให้กับเราท์เตอร์ของเราก็คือ การลดสัญญาณรบกวนการทำงานจากอุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้ความถี่ในย่าน 2.4GHz อย่างเช่น โทรศัพท์ไร้สายภายในบ้าน เครื่องส่งสัญญาณเตือนเด็กตื่น และอุปกรณ์ไร้สายต่างๆ ตลอดจนเตาอบไมโครเวฟ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้สามารถส่งคลื่น 2.4GHz ที่แรงมาก จนรบกวนให้สัญญาณ Wi-Fi ของคุณสู้ไม่ได้ แนะนำให้วางเราท์เตอร์ห่างไกลจากอุปกรณ์เหล่านี้จะดีกว่า



5. ดูแลเน็ตเวิร์กให้ปลอดภัย สำหรับวิธีสุดท้ายที่จะช่วยให้สัญญาณไวไฟของคุณไม่ถูกแอบใช้โดยชาวบ้านจนอืดยืดยาดไปหมด เนื่องจากการ Home Wi-Fi จะมีการปล่อยสัญญาณออกไปนอกบ้าน หากคุณไม่ทำการตั้งค่าระบบรักษาความปลอดภัยเอาไว้ อย่างเช่น การเข้ารหัส ซึ่งเราท์เตอร์ใหม่ๆ วันนี้จะได้รับผลกระทบต่อประสิทธิภาพความเร็วน้อยมาก แต่มันย่อมดีกว่า การโดนข้างบ้านแอบบใช้สัญญาณไวไฟของคุณ ท่องเน็ต โหลดบิต ดูยูทูบ ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ แฮคเกอร์สามารถใช้เน็ตเวิร์กที่ไม้ได้รับการดูแลเรื่องความปลอดภัยขโมยข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อได้ ในที่นี้ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ได้ตั้งค่าการเข้ารหัสด้วย WPA2 และใช้พาสเวิร์ดที่แข็งแรง


ชมเพลินๆ คอนเซปต์ iPhone 6
    
    ความแปลกใหม่ที่ Apple จะนำเสนอผ่าน iPhone 6 มีหลายคนพูดถึงเรื่องหน้าจอแสดงผลแบบยืดหยุ่นกันค่อนข้างมาก ซึ่ง Apple เองเคยดำเนินการจดสิทธิบัตรหน้าจอยืดหยุ่น และโค้งงอได้บนอุปกรณ์แบบพกพาพร้อมตัวเครื่องแบบโปร่งแสงไปเมื่อต้นปีก่อน ฉะนั้นจึงมีการสมมติว่าหาก Apple ใช้เทคโนโลยีหน้าจอยืดหยุ่นบน iPhone รุ่นต่อไป มันจะมีรูปร่างหน้าตาออกมาเป็นเช่นไร ซึ่งก็มีนักออกแบบรายหนึ่งนามว่า Claudio Guglieri  ได้สร้างสรรค์คอนเซปต์ของ iPhone 6 ออกมาให้เราได้ชม โดยภาพต่อไปนี้ของ Claudio Guglieri เน้นไปที่จอแสดงผลที่โค้งงอให้เป็นส่วนหนึ่งของขอบด้านข้างตัวเครื่อง และสามารถแสดงผลผ่านด้านข้างได้ด้วย





     นอกจากนี้ปุ่มต่างๆที่อาจเคยสร้างปัญหาให้ผู้ใช้ iPhone บางราย ไม่ว่าจะเป็นปุ่มโฮมหรือปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ก็จะถูกตัดออกไปและแทนที่ด้วยปุ่มแบบ Virtual Button    
Omate นาฬิกาสุดฉลาด กันน้ำได้

"Omate" เป็น SmartWatch ที่ตั้งเป้าของการระดมทุนผ่านเว็บไซต์ Kickstarter ไว้ที่ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ยอดปัจจุบันทะลุ 200,000 ดอลลาร์ไปเป็นที่เรียบร้อยความน่าสนใจของ Omate ถูกออกแบบด้วยวัสดุที่เป็นโลหะสามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP67 รองรับ microSIM ช่วยเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 3G ได้  Omate ยังถูกออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะการออกกำลังกาย, การเข้าถึง Social Media ด้วยแอพพลิเคชั่นภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jelly Bean และ User Interface เฉพาะที่เรียกว่า Omate UI 1.0




สำหรับสเปคโดยรวมของ Omate มีดังนี้

- หน้าจอขนาด 1.5 นิ้ว

- ชิปประมวลผลแบบ Dual-Core 1.3GHz

- สนับสนุนการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.0, GPS และ 2G/3G

- แบตเตอรี่ความจุ 600 mAh

- กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

- RAM 4GB

- หน่วยความจำภายใน 512 MB รองรับ microSD Card ได้สูงสุด 32GB

- สามารถใส่ microSIM ได้

- กันน้ำกันฝุ่นได้ด้วยมาตรฐาน IP67

- รันระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jelly Bean

เชื่อว่า Omate น่าจะเป็นอีกหนึ่ง SmartWatch ที่มีโอกาสต่อกรกับบรรดานาฬิกาสุดล้ำจากค่ายอื่นๆได้อย่างสูสี และมีสิทธิ์ที่จะเป็นแนวทางให้กับ SmartWatch รุ่นอื่นๆในอนาคตเช่นกัน ส่วนสนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 189 ดอลลาร์สหรัฐ